บทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำรงชีวิตเป็นอันมาก
เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐานสามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่างๆ
เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น
เทคโนโลยีทำให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจำนวนมาก มีราคาถูกลง
สินค้าได้คุณภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งให้บริการด้านข้อมูล ข่าวสารด้วยกลไกอิเล็กทรอนิกส์
ทำให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก
รวดเร็วตลอดเวลา
จะเห็นว่าชีวิตปัจจุบันเกี่ยวข้อง กับเทคโนโลยีเป็นอันมาก ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการทำงาน
รูปที่ 1.1 การติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียม
เราลองจินตนาการดูว่า
เราเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านใดบ้างจากตัวอย่างต่อไปนี้ เมื่อตื่นนอนเราอาจได้ยินเสียงจากวิทยุ ซึ่งกระจายเสียงข่าวสารหรือสาระบันเทิง เราใช้โทรศัพท์สื่อสารกับเพื่อน ดูรายการทีวีหรือวีดิทัศน์
ระหว่างมาโรงเรียนเดินทางผ่านถนนที่มีระบบไฟสัญญาณที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ที่ศูนย์การค้าเราขึ้นลิฟต์
ขึ้นบันไดเลื่อนที่มีการควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ ที่บ้านอาจมีเครื่องปรับอากาศที่ควบคุมอุณหภูมิโดยอัตโนมัติ ทำอาหารด้วยเตาอบ ซึ่งควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า จะเห็นว่าชีวิตในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นอันมาก
อุปกรณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นส่วนประกอบในการทำงาน
รูปที่ 1.2 เครื่องอำนวยความสะดวกภายในบ้าน
ในอดีตยุคที่มนุษย์ไม่มีถิ่นฐานแน่นอน
มีชีวิตที่เร่ร่อน
มีอาชีพเกษตรกรรม ล่าสัตว์ ต่อมามีการรวมตัวกันเป็นสังคมเมือง และทำให้เกิดการผลิตเชิงอุตสาหกรรม
เพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าและบริการปริมาณมาก สังคมจึงเป็นสังคมเมืองที่มีอุตสาหกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หลังจากปี พ.ศ. 2530
เป็นต้นมา
ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์ก้าวหน้ามาก
ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคสังคมสารสนเทศ
ชีวิตความเป็นอยู่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก การสื่อสารโทรคมนาคมกระจายทั่วถึง ทำให้ข่าวสารแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว สังคมในปัจจุบันเป็นสังคมไร้พรมแดน
เพราะเรื่องราวของประเทศหนึ่งสามารถกระจายแพร่ไปยังประเทศต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
นิยามเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
คำว่า “เทคโนโลยี”
หมายถึง
การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ
ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ
กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ
และการนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์
เทคโนโลยีจึงเป็นคำที่มีความหมาย กว้างไกล
เป็นคำที่เราได้พบเห็นและได้ยินอยู่ตลอดเวลา
รูปที่ 1.3 วงจรรวม
ส่วนคำว่า “สารสนเทศ” หมายถึง
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ มนุษย์แต่ละคนตั้งแต่เกิดมาได้เรียนรู้สิ่งต่าง
ๆ เป็นจำนวนมาก เรียนรู้สภาพสังคมความเป็นอยู่ กฎเกณฑ์และวิชาการ
รูปที่ 1.4 สื่อที่ช่วยในการรับส่งข้อมูลข่าวสาร
ภายในสมองมนุษย์ซึ่งเป็นที่เก็บข้อมูลไว้มากมายจะมีข้อจำกัดในการจัดเก็บ การเรียกใช้
การประมวลผล และการคิดคำนวณ
ดังนั้นจึงมีผู้พยายามสร้างเครื่องจักรเครื่องมือ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการสารสนเทศ เช่น
เครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำได้มาก
สามารถให้ข้อมูลได้แม่นยำและถูกต้องเมื่อมีการเรียกค้นหา ทำงานได้ตลอดวันไม่เหน็ดเหนื่อย และยังส่งข้อมูลไปได้ไกลและรวดเร็วมาก เครื่องจักร
อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับสารสนเทศนั้นมีมากมายตั้งแต่เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รอบข้าง ระบบสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่
ทำให้เกิดงานบริการที่อำนวยความสะดวกต่างๆในชีวิตประจำวัน
เมื่อรวมคำว่า “เทคโนโลยี” กับ “สารสนเทศ” เข้าด้วยกัน จึงหมายถึง
เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ
เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล
การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ
เทคโนโลยีสารสนเทศจะรวมไปถึง
เทคโนโลยีที่ทำให้เกิดระบบการให้บริการ
การใช้ และการดูแลข้อมูล
รูปที่ 1.5 การฝากถอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม
เทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีความหมายที่กว้างขวาง รอบ ๆ ตัวที่เกี่ยวกับการใช้สารสนเทศอยู่มาก ดังนี้
1. การเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ระบบ
นักเรียนอาจเห็นพนักงานการไฟฟ้าไปที่บ้านพร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเพื่อบันทึกข้อมูลการใช้ไฟฟ้าในการสอบที่มีผู้เข้าสอบจำนวนมากก็มีการใช้เดินสอดำระบายตามช่องที่เลือกตอบ เพื่อให้เครื่องอ่านเก็บรวบรวมข้อมูลได้
เมื่อไปซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าก็มีการใช้รหัสแท่ง (bar
code) พนักงานจะนำสินค้าผ่านการตรวจของเครื่องอ่านรหัสแท่งเพื่ออ่านข้อมุลการซื้อสินค้า เมื่อไปที่ห้องสมุดก็พบว่าหนังสือมีรหัสแท่งเช่นเดียวกัน
การใช้รหัสแท่งนี้เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการข้อมูล จะเห็นได้ว่าการเก็บ
รวบรวมข้อมูลจากคอมพิวเตอร์สามารถเก็บได้หลายแบบ
รูปที่ 1.6 ตัวอย่างการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยพนักงานใช้เครื่องกราดตรวจอ่านรหัสแท่ง
2. การประมวลผล
ข้อมูลที่เก็บมาได้มักจะเก็บในสื่อต่าง ๆ เช่น
แผ่นบันทึก
แผ่นซีดี และเทป
ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาประมวลผลตามความต้องการ เช่น
แยกแยะข้อมูล
เป็นกลุ่ม เรียงลำดับข้อมูล คำนวณ
หรือจัดการคัดแยกข้อมูลที่จัดเก็บนั้น
รูปที่ 1.7 ตัวอย่างการเก็บรวบรวมข้อมูล
โดยพนักงานใช้เครื่องกราดตรวจอ่านรหัสแท่ง
3. การแสดงผลลัพธ์ คือการนำผลจากการประมวลผลที่ได้
มาแสดงผลลัพธ์ให้อยู่ในรูปแบบต่าง ๆ อุปกรณ์ที่ใช้ในการแสดงผลลัพธ์มีมาก
สามารถแสดงเป็นตัวหนังสือ รูปภาพ
ตลอดจนพิมพ์ออกมาที่กระดาษ
การแสดงผลลัพธ์มีทั้งที่แสดงเป็นภาพ
เสียง และวีดิทัศน์ เป็นต้น
รูปที่ 1.8 การแสดงผลลัพธ์ทางเครื่องพิมพ์
4. การทำสำเนา
เมื่อมีข้อมูลที่จัดเก็บในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ การทำสำเนาจะทำ
ได้ง่าย และทำได้เป็นจำนวนมาก อุปกรณ์ที่ช่วยในการทำสำเนาจัดได้ว่าเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศอีกประเภทหนึ่งที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เรามีเครื่องพิมพ์ เครื่องถ่ายเอกสาร อุปกรณ์การเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น
แผ่นบันทึก ซีดีรอม ซึ่งสามารถทำสำเนาได้เป็นจำนวนมาก
รูปที่ 1.9 ตัวอย่างการทำสำเนา
5. การสื่อสารโทรคมนาคม
เป็นวิธีการที่จะส่งข้อมูลหรือข่าวสารจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง หรือกระจายออกไปยังปลายทางครั้งละมากๆ ปัจจุบันมีระบบสื่อสารโทรคมนาคมหลายประเภท ตั้งแต่โทรเลข โทรศัพท์
โทรสาร วิทยุ โทรทัศน์
และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีรูปแบบของสื่อหลายอย่าง เช่น
สายโทรศัพท์ เส้นใยนำแสง เคเบิลใต้น้ำ
คลื่นวิทยุ ไมโครเวฟ และดาวเทียม
รูปที่ 1.10 การสื่อสารโทรคมนาคม
ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
โดยพื้นฐานของเทคโนโลยี ย่อมมีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าได้
แต่เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิถีความเป็นอยู่ของสังคมสมัยใหม่อยู่มาก ลักษณะเด่นที่สำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ มีดังนี้
1. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้การทำงานรวดเร็ว
ถูกต้อง และแม่นยำ
ในระบบการจัดการขององค์กรทุกแห่งต้องใช้ข้อมูลเพื่อการดำเนินการและตัดสินใจ ระบบธุรกิจจึงใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีการสื่อสารเป็นเครื่องมือช่วยในการดำเนินการเพื่อให้การทำงานมีความรวดเร็ว
ถูกต้อง และแม่นยำ เช่น ใช้ในระบบฝากถอนเงิน และระบบจองตั๋วเครื่องบิน
2. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยทำให้การบริการกว้างขวางขึ้น
เมื่อมีการพัฒนาระบบเก็บและใช้ข้อมูล ทำให้การบริการต่างๆอยู่ในรูปแบบการบริการแบบกระจาย
ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน สามารถถามข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์
นิสิตนักศึกษาบางมหาวิทยาลัยสามารถใช้คอมพิวเตอร์สอบถามผลสอบจากที่บ้านได้
3. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยดำเนินการในหน่วยงานต่างๆ
ปัจจุบันทุกหน่วยงานต่างพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลและรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ในองค์กร ประเทศไทยมีระบบทะเบียนราษฎร์ที่จัดทำด้วยระบบคอมพิวเตอร์
ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล
ระบบการจัดเก็บข้อมูลภาษีซึ่งในปัจจุบันองค์กรทุกระดับเห็นความสำคัญที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้
รูปที่ 1.11 เว็บไซต์ระบบทะเบียนราษฎร์
4. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยงานในชีวิตประจำวัน
รูปที่ 1.12 สารสนเทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ
ที่มา:http://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/knowledge/349-00/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น